วันก่อนคุยโทรศัพท์กับเพื่อนรุ่นน้องที่คุ้นเคยกัน เสียงพูดของเขาเหมือนมีอะไรในปาก ผมจึงถามไปว่า "กินอะไรอยู่เหรอ"
เขาตอบว่า "กำลังกินข้าวเกรียบ (ยี่ห้อที่โฆษณาว่ากินแล้วจะมีเพื่อนมาก) อย่างมีสติ"
"มันเป็นยังไง" ผมถามต่อ
เขาบอกว่า "ก็รู้ว่าข้าวเกรียบมันไม่ดีกับสุขภาพ แต่อยากกินมาก เลยกำหนดไว้ว่าจะกินไม่เกิน 15 ชิ้น พยายามกินอย่างมีสติ"
ผมถามตามประสาคนคุ้นเคยว่า "ช่วงนี้ มีเรื่องเครียดหรือเปล่า"
"รู้ได้ไง" เขาประหลาดใจ
จากนั้น เราก็พูดคุยกันในเรื่องที่รบกวนใจเขาอยู่
ผมพบเป็นประจำครับ
เวลาคนเราเครียด จะกินอะไรที่ไม่ค่อยดีกับสุขภาพ
โดยเฉพาะของหวาน มัน เค็ม จะชอบและโหยมากกว่าปกติ
ของหวานช่วยให้รู้สึกสดชื่น
ของเค็มมัน จะมีรสอร่อยเป็นพิเศษ กินแบบหยุดไม่อยู่เลยทีเดียว
มีรายงานวิจัยว่าของหวานมันเค็ม มีฤทธิ์เสพติดได้ด้วยครับ
สมองจะทำงานเหมือนกับเวลาที่ได้รับสารเสพติด
สภาวะที่ทำให้เราโหยของแบบนี้เป็นพิเศษ คือ ช่วงเวลาที่เรากำลังเครียด หรืออดนอน
การกินของหวาน มัน เค็ม ช่วยเราคลายเครียดได้ชั่วคราว
เราย้ายการรับรู้ต่างๆ ไปอยู่ที่การกินและรสชาติของอาหารหรือของขบเคี้ยว จนลืมความเครียดไปชั่วคราว
เป็นวิธีจัดการความเครียดที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ที่แย่ไปกว่านั้น ก็คือ เมื่อเราเบรคแตก คุมการกินไม่ได้
พอกินเสร็จ ก็กลับมารู้สึกผิด
กลายเป็นความเครียดใหม่ซ้อนเข้ามาอีก
ช่วงเครียดๆ เรายังมักนอนน้อยลง
ยิ่งทำให้คุมการกินได้ยาก
เพราะการอดนอนจะรบกวนการทำงานของฮอร์โมนการกิน
ทำให้เรากินเกิน
คนที่น้ำหนักเกิน และพยายามควบคุมการกิน
จึงมักพ่ายแพ้ต่อความอยาก ในเวลาที่เครียดหรืออดนอน
ทั้งๆ ที่รู้ว่าของที่กินเข้าไปนั้น มันไม่ดีกับสุขภาพ
วิธีเอาชนะตัวเองในเรื่องการกิน
จึงต้องจัดการที่อารมณ์ความเครียดและการนอนให้ดี
ร่างกายและจิตใจมันสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด
ถ้าคุณกำลังพยายามควบคุมการกินและลดน้ำหนัก
ลองหันมาสังเกตใจตัวเองดู โดยเฉพาะเวลาที่อยากกินโน่นกินนี่
แล้วลองหาวิธีจัดการอารมณ์ความเครียดที่ดีกว่า
นี่อาจเป็นมาตรการที่ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ
ในการควบคุมการกินและน้ำหนักตัว
เป็นกำลังใจให้นะครับ
Search